“10สิ่ง” ที่ไม่มีใครบอกคุณเกี่ยวกับการไปเที่ยวคนเดียว!

“เที่ยวคนเดียว” บางคนอาจคุ้นเคยกับมัน บางคนยังรู้สึกห่างไกล แต่คงมีอีกไม่น้อยที่อยากลองขยับเข้าใกล้คำนี้ดูสักหนในชีวิต! จากประสบการณ์การท่องเที่ยวของโซเนียที่ผ่านการท่องเที่ยวด้วยตัวเองโดยเริ่มจากศูนย์ ไม่รู้แม้แต่วิธีการเตรียมตัว แพ็คกระเป๋า หรือแม้แต่การจะสื่อสารด้วยภาษาอื่นๆที่ไม่ใช่ภาษาไทย.. สัญชาติญาณล้วนๆเท่านั้นที่ใช้เริ่มต้น ! ในโลกแฟนตาซีที่ใครหลายคนพร่ำบอกให้คุณออกไปลุย..วันนี้จะพูดถึงในอีกหลายมุมที่สามารถเกิดขึ้นได้ (ถ้าได้ออกไปเที่ยวคนเดียวนานพอนะ) เจอได้ สัมผัสได้ ในแบบที่คนไม่เคยไปคนเดียวอาจจะนึกไม่ออก!

1.บางครั้งมันก็น่ากลัว

1:: บางครั้งมันก็น่ากลัว “บางครั้ง”เท่านั้น เป็นธรรมดาที่ไปแปลกที่แปลกทาง ไม่คุ้นเคยทั้งอาหารทั้งภาษา นอนในที่ๆไม่คุ้นเคย ความกลัวจะเกิดขึ้นให้เราได้สารพัดจะจินตนาการแง่ร้ายขึ้นแน่นอน หรือบางที่ไม่ต้องอาศัยจินตนาการก็สัมผัสได้ว่ามันน่ากลัวจริงๆ… แรกๆเราก็กลัว กลัวแบบกลัวไปเอง แต่ความคุ้นเคยเมื่อวันเวลาผ่านไปก็แทบจะไม่เหลือให้กลัวอะไรอีก ยกเว้นว่าไปที่ๆน่ากลัวจริงๆ เพราะฉะนั้นจงเชื่อในสัญชาติญาณของตัวเอง กลัวไม่ผิดแต่ต้องไม่ประมาท ระมัดระวัง รอบคอบอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเป็นผู้หญิงคนเดียว .. อ่านเรื่อง ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวให้ปลอดภัยยังไง จำไว้ว่า.. มันเป็นบางครั้งเท่านั้น!! 

2.เหงาแน่ๆ

คุณจะต้องรู้สึกเหงาแน่นอน ต่อให้คุณเป็นคนชอบอยู่คนเดียวได้ดีแค่ไหน โลกส่วนตัวสูงขนาดไหนบางครั้งมันก็จะทำให้คุณนึกถึงการมีใครสักคนได้มาแชร์ความสวยตรงหน้า หรือประสบการณ์สนุกๆด้วยแน่นอน ต่อให้จะพบเพื่อนใหม่ระหว่างทางก็คงไม่เหมือนเพื่อนสนิทหรือใครสักคนที่เราสนิทแน่นอน แต่!!! มันจะอยู่ไม่นานหรอกความเหงาเนี่ย สบายใจได้ 

3.จ่ายแพงกว่าปกติ

การเดินทางคนเดียวมักจะต้องจ่ายแพงกว่าการเดินทางเป็นกลุ่ม หรือเป็นคู่ เพราะคุณต้องจ่ายคนเดียวหมดทุกอย่างตั้งแต่ค่าที่พัก ค่าแท็กซี่ ค่าเรือ ค่าอาหาร..กิจกรรมต่างๆ หรือแม้แต่การซื้อทริปทัวร์บางครั้งจริงๆก็แทบทุกครั้งมักจะขายเป็นกลุ่มแบบต้องรอคนอื่นมาหารด้วย แต่ยังไงการเดินทางคนเดียวก็ยังคุ้มค่าแม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นมาบ้างซึ่งก็อยากย้ำว่าไม่ใช่ทุกครั้งไปมันมีวิธีการที่ถูกๆซ่อนอยู่เสมอล่ะ ไม่มีคนหารแท็กซี่ก็ขึ้นรถบัสประจำทาง เป็นต้น

4.เป็นทุกอย่างให้ตัวเอง

เป็นทุกอย่างที่ว่านั่นหมายถึงตั้งแต่ที่คุณก้าวขาไปสนามบินด้วยตัวคนเดียว คุณต้องรับผิดชอบตัวเองสูงมาก ต้องเป็นทุกอย่างตั้งแต่นักวางแผน นักจัดการทุกอย่าง(ของชีวิตตัวเอง) และถ้าหากมันไม่เป็นไปตามแผนซึ่งมันน่าจะเป็นแบบนั้นอยู่ตลอด คุณก็จะต้องสวมบทเป็นนักบริหาร นักตัดสินใจ ในเวลาเร่งด่วน คุณต้องวางแผนการเงิน การเดินทาง ความปลอดภัย ที่พัก และสุดท้ายเป็นช่างภาพด้วยนั่นเอง เดอะแบกของจริงเลยล่ะพวกชอบโซโล่เนี่ย

5.เหนื่อยมาก

การไปคนเดียวนั่นก็หมายถึงคุณต้องรับผิดชอบชีวิตคุณคนเดียวด้วย คุณจะต้องเป็นทุกอย่างตั้งแต่ยังไม่เดินทาง ตั้งแต่จองตั๋ว วางแผนทุกสิ่งทุกอย่าง หรือแม้กระทั่งต้องถ่ายรูปให้ตัวเองอีก แม้มันจะสนุกแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเหนื่อยมากจริงๆในเวลาเดียว นอกจากนี้ยังเหนื่อยที่ต้องแบกสัมภาระกระเป๋าเดินทาง ของใช้ ยันกล้องถ่ายรูปด้วยตัวคนเดียวน่ะสิ ไม่พอ หากวางแผนการเดินทางแต่ละวันแน่นๆเพื่อเก็บให้ครบหรือแม้แต่นอนลำบากๆ กินลำบากๆเพื่อประหยัดเงิน ทุกอย่างนี้มันจะเหนื่อยมาก!

6.หงุดหงิดแต่บอกใครไม่ได้

การเดินทางด้านสวยงามยังมีอีกด้านเช่นกัน บางครั้งมันทำให้คุณหงุดหงิดได้บ่อยไปสารพัดเรื่องราว เช่นการเดินทางที่ผิดแผน ผิดเวลา รถมาช้า ติดต่อลำบาก สื่อสารผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่างๆมากมายหรือแม้แต่สถานที่ๆไปไม่ตรงปก ผู้คนไม่โอเค อย่างเรื่องที่เคยทำให้เราเซงไปเลยก็คือเราจ้างคนขับรถในอินเดียที่ดูแลเราอยู่หลายวัน วันสุดท้ายเค้าเรียกขอทิป เราให้ไปตามมารยาท ไม่ได้เยอะแต่มันไม่ได้น้อย ซึ่งมันไม่มากพอตามที่เค้าคาดหวังไว้จริงๆเรียกร้องมาเป็นตัวเลขเลย ซึ่งเราว่ามันไม่โอเค ค่ารถอะไรก็จ่ายแล้วเรียกร้องทิปแบบระบุจำนวนนี่เหมือนขูดรีดกันเลย เราให้เงินเค้าก็พูดกลับมา เก็บไว้ซื้อชากินเถอะ.. แป้ววววว ไม่ได้เสียอะไรนอกจากเสียความรู้สึกและหงุดหงิดสุดๆไปเลย

7.ข้อจำกัดบางอย่างที่ทำไม่ได้

มันแปลออกมาได้หลายอย่างเลยไอ้ข้อจำกัดเนี่ยแต่หลักๆเราหมายถึงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งขอย้ำว่าการไปคนเดียวไม่ได้แปลว่าอิสระจนสามารถทำอะไรที่อยากทำก็ได้ เช่น.. บางสถานที่ไม่มีคุณห้ามคนไป แต่อย่าไปเลยคนเดียวมันอันตรายเกินไป(การพิจารณาความอันตรายก็ขึ้นอยู่กับคุณและคำแนะนำของคนแถวนั้น) สมมุติมีภูเขาในเมืองนึงที่วิวบนนั้นสวยแต่เป็นภูเขาที่ไกลเมือง คนไม่เยอะ ใช้เวลานาน ไม่ปลอดภัย ให้ตัดช้อยส์นี้ทิ้งได้เลยผู้หญิงคนเดียวอย่าไป คนเดียวอิสระจริงแต่ไม่ทุกอย่าง ย้ำว่าไม่ทุกอย่าง

8.รู้สึกแปลก เขิน

ถ้าไม่เคยทำอะไรคนเดียวเลย..ข้อนี้คงจะรู้สึกแรงหน่อย ตั้งแต่ก้าวขาไปสนามบินเลยล่ะ ไหนจะบินไปถึงสถานที่ๆไม่เคยมา ไม่คุ้นเคยอะไรเลยก็จะยิ่งแปลกเข้าไปอีก แล้วมันจะรู้สึกเขินขึ้นมาเลยล่ะถ้าเริ่มต้องไปหาร้านอาหารและนั่งทานคนเดียวโดยที่สั่งอะไรไม่ถูกเลย แต่มันจะเป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น ไม่เกิน3วันก็ชิลแล้วล่ะ

 

9.ค้นพบตัวเอง

เมื่อผ่านความยากลำบากของการไปคนเดียวสักพัก คุณจะเริ่มพบตัวตนของคุณเอง ความชอบที่คุณไม่เคยคิดว่าจะชอบ สกิลบางอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ยกตัวเองเช่นโซเนียคิดว่าตัวเองคงออแกไนซ์อะไรไม่ได้ แต่การวางแผนทริปที่ต้องไปคนเดียวมันเปลี่ยนให้เราทำได้และทำได้ดีด้วย เพราะเราต้องจัดการชีวิตตัวเองตั้งแต่จัดกระเป๋าเลย รวมไปถึงบริหารเงินและเวลาให้ใช้ได้อย่างพอดิบพออดี และการค้นพบนั้นไม่ใช่แค่สิ่งเดียว แต่มันมีอีกหลายสิ่งมากมายเต็มไปหมด ไหนจะชอบเล่าเรื่อง ชอบถ่ายรูปตลกๆ ต่างๆ

10.เสพติด

เมื่อคุณทำได้สำเร็จคุณไม่รักก็เกลียดแต่ส่วนมากจะเริ่มรัก และคุณจะค้นพบตัวเองว่ารอไม่ไหวที่จะเริ่มทริปถัดไป ถัดไป และถัดไปอีกแบบไม่รู้จบ จนกว่าเงินในกระเป๋าจะไม่ยอมให้คุณไป ถึงตอนนั้นคุณจะก็เสพติดความอิสระของการไปคนเดียว การได้ทำอะไรตามใจโดยไม่ต้องรอใคร ความสุขกับสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาระหว่างทางที่ทำให้ตัวคุณตกหลุมรักซ้ำๆไม่รู้ตั้งกี่รอบ !

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *