เราอยู่ในห้องคอนโดคนเดียวได้เป็นเดือนแบบชิลๆโดยไม่ต้องพบปะใคร แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ออกไปท่องโลกได้เป็นปีๆโดยไม่ต้องกลับมาได้เหมือนกัน ฟังดูช่างขัดแย้งแต่นี่แหละชีวิตมนุษย์มันมีหลายมิติเสมอ
เราอยู่ในห้องคอนโดคนเดียวได้เป็นเดือนแบบชิลๆโดยไม่ต้องพบปะใคร แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ออกไปท่องโลกได้เป็นปีๆโดยไม่ต้องกลับมาได้เหมือนกัน ฟังดูช่างขัดแย้งแต่นี่แหละชีวิตมนุษย์มันมีหลายมิติเสมอ คนส่วนมากเข้าใจว่าพวกโลกส่วนตัวสูงเป็นคนขี้อายและไม่ชอบสังคม.. จริงๆเราตัดสินคนจากมิติๆเดียวไม่ได้ทั้งหมดเราผู้เขียนบล็อกนี้ในนามที่หลายๆคนรู้จักว่า “โซเนีย” ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองเป็นพวกโลกส่วนตัวสูง และสูงมากมาแต่กำเนิด (คนรอบตัวจะรู้ดี 55) เรารู้สึกเหนื่อยเวลาเจอคนเยอะ เจอเพลงดังๆเป็นเวลานาน หรือเรื่องอะไรยิบย่อยที่เป็นเหมือนเสียงกระซิบผ่านลอดเข้าโสตประสาทโดยที่เราไม่ได้เป็นผู้เลือกจะรับสารนั้น! และแน่นอนว่า เรื่องอื่นๆอาจทำให้เหนื่อยแต่.. การท่องเที่ยวกลับเป็นเหมือนการชาร์ตแบตเตอรี่ จากสิ่งเร้าในสังคมที่จำเจได้เป็นอย่างดี แต่ย้ำว่าต้องเป็นการเที่ยวในฉบับของตัวเอง
- การได้เจอเพื่อนร่วมทางใหม่ๆได้พูดคุยกันแบบ ” ลึกๆ” ในเรื่องที่สนใจเหมือนกันนั้นรู้สึกแฮปปี้กว่าการเจอคนที่เจอประจำแล้วทักทายกันแบบ “ผิวเผิน”
- หรือแค่การเดิน พูดคนเดียว คิดคนเดียว หลงไปในเมืองที่ไม่มีใครรู้จักเรานั่นก็รู้สึกว่าดีมากเหมือนกัน
เอาล่ะในโพสนี้เราจะบอกเล่าว่าคนโลกส่วนตัวสูงนั้นจริงๆพวกเขาจะกลายเป็นนักท่องเที่ยว นักเดินทางชั้นดีมากๆเลยล่ะ
- Blend in คนโลกส่วนตัวสูงนั้นเก่งในเรื่องหายตัว ไม่ได้หมายถึงหายวั๊บ แต่หายที่ว่าคือกลมกลืนไปอย่างเงียบๆ ไม่ทำให้เป็นจุดสนใจ ถ้าอยู่ในงานปาร์ตี้ก็คงจะอยู่ในมุมที่สงบที่สุดใกล้กำแพง แต่กับการท่องเที่ยวพวกเขา..จะกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมและสังคมนั้นๆได้เป็นอย่างดีด้วย เพราะลึกๆนอกจากทำตัวเงียบๆแล้วในขณะเดียวกันยังชอบเรียนรู้ไปอย่างเงียบๆอีกด้วย
- Good Listener เมื่อพวกเขาเงียบ.. หูของเขาก็จะได้ยินชัดขึ้น เรามีเพื่อนที่เป็นเหมือนเราหลายคน พวกเขาเป็นนักฟังที่ดี ในมุมของการท่องเที่ยว การฟังที่ดีนั้นหมายถึงพวกเขาเปิดรับทุกอย่างรอบๆตัว ฟังเสียงของสถานที่นั้นๆ และย่อยมันออกมาเป็นความเข้าใจบริบทของพื้นที่ต่างๆได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ผู้คน สภาพสังคม และวัฒนธรรม จากทั้งสองข้อคือพวกเขาไม่เพียงแต่กลมกลืน แต่เข้าใจและเรียนรู้บริบทนั้นๆได้ดีด้วย
- ไม่มีปัญหากับการรอเท่าไหร่ พวกเขามักรู้ว่าการไปเที่ยวนั้นอาจจะกินเวลานาน ไม่ว่าจะเป็น flight ยาวๆ รถไฟที่นั่งข้ามประเทศ หรือรถที่นั่งกันข้ามวันข้ามคืน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหาพวกเขารู้วิธีการจัดการกับเวลายาวนานเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ด้วยการเข้าโลกส่วนตัว และดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ชอบหรือถนัดมากๆด้วยเพราะมีเวลาได้ Enjoy กับโลกอีกใบของตัวเอง การรอจึงไม่ใช่การรอสักเท่าไหร่
- โอเคที่จะต้องอยู่คนเดียว พวกเขาสามารถไปไหนทำอะไรคนเดียวได้ เที่ยวคนเดียวได้ ซึ่งหลายๆคนอาจจะทำไม่ได้ หรือรู้สึกประหม่าที่ไม่มีใครอยู่ด้วย พูดด้วย ทำกิจกรรมด้วยในที่ๆต่างถิ่น ต่างความคุ้นเคย บางคนอาจจะดูเศร้าไปเลยเมื่อต้องทำอะไรพวกนี้คนเดียว แต่พวก Introvert เหล่านี้จะอยู่ได้สบายๆ อาจจะมีกลัวบ้างแต่เชื่อเถอะ ว่าเราก็ยังมีตัวเราอีกคนเป็นเพื่อนคอยพูดด้วยในหัวเสมอ
- ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีความมั่นใจในตัวเอง พวกโลกส่วนตัวสูง ดูเหมือนเป็นพวกไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ขาดความกล้าพูด กล้าทำ จริงๆแล้วตรงข้าม พวกเขากล้าพูดสิ่งที่คิดตรงๆได้ดีมาก แล้วก็กล้าทำด้วยถ้าตัดสินใจจะทำ มันอยู่ที่ว่าพวกเขาจะตัดสินใจทำหรือไม่ทำเท่านั้น เมื่อยามมีความมั่นใจพวกเขามีความมั่นใจมากด้วยนะ นั้นแหละถือเป็นสกิลที่ควรจะมีเมื่อต้องออกไปเที่ยวสู่โลกกว้าง ทั้งความมั่นใจ ความกล้า คิด กล้าทำ กล้าเผชิญ
- เป็นเพื่อนใหม่ระหว่างทางที่ยอดเยี่ยม เชื่อเถอะว่าถ้าคุณเจอพวกโลกส่วนตัวสูงระหว่างทาง พวกเขาอาจจะดูเข้าถึงยากในตอนแรกแต่หากได้คุยได้แชร์ประสบการณ์ ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมทางพวกเขาจะเป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ แล้วคิดว่าพวกเขาน่าจะมีข้อมูลแน่นๆมาทำให้ทริปของคุณว้าวขึ้นไปอีกด้วย
ถ้าเกิดว่าเจอคนเหล่านี้ระหว่างทาง อย่าตัดสินว่าเขาเป็นคนแปลกเลยนะ 55 ลองทำความรู้จักก่อน มันอาจจะดีก็ได้ค่ะ ส่วนในวันนึงถ้าได้มาเที่ยวกับเราแล้วบางครั้งเราไม่ค่อยพูดด้วย ก็ได้โปรดเข้าใจเราด้วยนะคะ โซเนียไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเลย บางอารมณ์ก็ยุ่งคุยกับตัวเองอยู่เท่านั้นเองค่ะ จากใจ