
ตอนที่2 สนุกจังเลย
หลังจากขึ้นมาถึงที่หมาย ที่ๆแบบสุดแล้วจ้า
อิฉันไม่ต้องแบกสังขาลไปไหนอีกแล้ว
ก็ไปหาเต๊นท์..
.
การหาเต๊นท์นี้ก็แล้วแต่ความชอบเลย
มันจะเป็นลานกว้างๆ เค้ากางเต๊นท์ไว้ให้แล้วแหละ
สะดวกสุด สำหรับการมาครั้งแรกแบบเรา
(ซึ่งอยากสารภาพว่าไม่เคยอ่านรีวิวสักตัวก่อนมา)
สะดวกมุมไหน ตรงไหนคิดว่าฮวงจุ้ยสมพงศ์กัน
ก็เอาเลยจ้า เลือก.. เราเลือกมุมนึง
ที่อยู่ทางซ้าย… ริมๆ ฮวงจุ้ยดีสำหรับเรา(ในตอนนั้น)
คือใกล้ห้องน้ำล่ะว่ะ เอาตรงนี้แหละ
.
**ขอขยายความห้องน้ำนิด
ห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดของเรา
ยังคิดว่าไกลมาก.. คิดภาพตาม
คือแบบถ้าจรวจจะปล่อยยานแล้วอะ
วิ่งไม่ทันเลยนะ แผละผละเลยนะ.. !
แล้วคิดดูถ้าตรงอื่นที่ไกลไปอีกล่ะ!
โอ้มายลอร์ดฉันไม่อยากจะคิดเลย
ส่วนถามว่าอาบน้ำไหม ดิฉันตอบไม่ได้ค่ะ
ภาพในส่วนนี้มันหายไปเลย
เหมือนโดนใครฉกเมโมรี่ไป
ค่อนไปทางว่าจะไม่อาบ…..แฮร่
จำได้แค่ว่า ห้องน้ำเป็นสีขาวแบบนี้นะเป็นห้องๆ
มีกระจกกับอ่างล้างหน้ารวมแค่นี้นะ..คล้ายๆตาม
ปั๊มปตท. แล้วภาพก็หายไปเลย
ภาพมาที่ดิฉันนั่งอยู่ในเต๊นท์ ใส่เสื้อสามชั้น เกงอีกสอง
ชั้น กำลังนั่งรื้อกระเป๋าอยู่ด้วยความงงว่า
“กุแบกอะไรมานักหนาเนี่ย หนักshipหายยย”
เราคิดว่าทุกคนอยากจะรู้แหละ
จะบอกให้ก็ได้… หลังจากเปิดกระเป๋าสองใบแล้วนั้น
มีไส้ข้างในดังนี้…
1)โน๊ตบุ๊คโบราณๆ สายชาร์ตมีตุ้มๆหนักๆ1เครื่อง
พร้อมเมาส์และอุปกรณ์ครบครัน
1)โน๊ตบุ๊คโบราณๆ สายชาร์ตมีตุ้มๆหนักๆ1เครื่อง
พร้อมเมาส์และอุปกรณ์ครบครัน
2) รองเท้าผ้าใบสองคู่ รองเท้าแตะอีกสองคู่
และ
3)เสื้อผ้าอีกนิดหน่อย ทิชชู่เปียก ขวดน้ำ พาวเวอร์แบงค์ พัดลมใส่ถ่าน…
3)เสื้อผ้าอีกนิดหน่อย ทิชชู่เปียก ขวดน้ำ พาวเวอร์แบงค์ พัดลมใส่ถ่าน…
.
.
.
อ่านมาถึงตรงนี้.. ชั้นรู้ค่ะ ชั้นก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละ
“มึงจะแบกรองเท้าไปทำไมเยอะๆเนี่ยยยยย!”
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..
พอรื้อกระเป๋า จัดใหม่ ใส่เสื้อผ้าใหม่แล้ว
ก็เตรียมออกไปหาอะไรกิน..
มาเดินป่าจริงๆเลยค่ะ คือแค่เดินมาแหละ แค่เดิน
นอกนั้นมีให้หมดแล้ว

อาหารการกินขอไม่บอกแล้วกัน
เดี๋ยวจะถึงบางอ้ออออออออออที่นี่นี่เอง
มันจะมีร้านๆให้เลือก ไม่กี่ร้าน
อิฉันเลือกร้านพี่โคนต้ายยยค่า
เพราะพี่ดูหร๊อยยมากเลยนิ
.
พี่บอกว่ามาที่นี่คือบรรยากาศดี
และแถมกลอนให้นิดหน่อยที่ดิฉันจำได้แม๊นแม่น
คือ “กินของขม ชมเด็กสาว ตื่นแต่เช้า เล่าความหลัง”
ซึ่งจะแปลว่าอะไรก็ตามใจพี่น้องเลย
ลุงแกว่ามางี้5555 แต่กินร้านลุงอีกไหม
ไม่แล้วจ้าาา น้ำซุปนี้รสคนอล้วนๆ
.
ไม่นาน ไฟก็ดับหมด กลับมาที่เต๊นท์ เตรียมเข้านอน
พี่สาวที่มาด้วยก็เป็นคนง่ายๆ เรานอนคุยกันเงียบๆ
ขำกับคิกๆ อยู่สองคน ก่อนจะหลับไป
ปล. หนาวมาก หนาวเว่อร์ หน๊าวหนาว
.
และ
.
และ
.
และ
อีผี เต๊นท์กระตุกกกกกกก!!!!!
ตื่นขึ้นมาด้วยกันทั้งคู่ มองหน้ากันปริบๆ
อะไรวะเนี่ย.. แล้วก็มองเงาที่ทะลุเข้ามา
ค่ะ นางมีเขา นางตัวใหญ่ ว่ากันว่านาง
เป็นเพื่อนกับคนขับรถของซานต้า…
อื้มมม.. เคร น้องจะรื้อเต๊นท์ก็ได้แหละ
แต่น้องอย่าเหยียบหัวพี่นาจาา

เวลา 6.00เช้า
ชั้นตื่นแล้ว แต่ชั้นไม่อยากไปไหนหรือทำอะไรทั้งสิ้น
โดยเฉพาะการอาบน้ำ ชั้นหนาว
แต่พี่สาวที่มาด้วยบอกว่า พาไปห้องน้ำหน่อย
อ่ะ ก็ได้.. ดิฉันที่ห่อหุ้มร่างกายด้วยอาภรณ์
ทั้งหลายจนคล้ายมัมมี่นั้น เมื่อขยับตัว
จะออกจากเต๊นท์
.
.
ใช่ค่ะ……………ปวดขา
.
แต่ชีวิตคนเรามันก็ต้องไปต่อถูกไหมคะ
บิดซ้ายบิดขวาให้กระดูกเข้าที่อีกนิด
เดี๋ยวเราก็จะโอเคเองนั่นแหละ
แต่พี่สาวเราเค้าบ่นว่าเค้าเคืองตาจังเลย
.
เหตุการณ์หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน
กลับมาที่เต๊นท์.. เรากลับมาก่อน
พี่สาวเรานางกลับมาทีหลัง หลังมากๆ
กลับมาถึงนางก็เริ่มเลยค่ะ
.
พี่ :: นี่เธออออ… เธอรู้ไหมอะไรติดตาชั้น
เรา :: อะไรอ่ะ เห็นบ่นเคืองตา
พี่ :: เห็บ…!!!
เรา :: เอ้าจริงดิ เห็บแบบเห็บหมานี้อ่ะหรอ
พี่ :: เอออออออ อันนั้นแหละ โคตรเจ็บเลย
เรา :: แล้วเอาออกยังอะ
พี่ :: เอาออกแล้ว.. ชั้นให้ใครก็ไม่รู้แหละที่เดินไปเข้าห้องน้ำ
เป็นน้องผู้หญิงกลุ่มนึง ดึงออกให้ มันติดที่ขอบตาชั้นในเลยนะแก
เรา :: จริงดิ แล้วน้องเค้าไม่กลัวหรอ แล้วเจ็บไหม
พี่ :: น้องเค้าก็ช่วยชั้นแหละ ทุลักทุเลมากอ่ะ ฮืออ
ฉันเข้าใจแล้วว่าน้องหมาเจ็บปวดขนาดไหนจากการถูกเห็บกัด
.
.
.
โอเคแหละ อย่างน้อยการมาที่นี่ก็.. ทำให้คนๆนึง
ซึ้งในความรู้สึกของหมา.. ว่าเห็บกัดมันเจ็บขนาดไหน
คุณผู้อ่านคะ คุณเคยเข้าใจความรู้สึกหมาเหมือนพี่สาวชั้นไหมคะ?
ถึงเวลาอาหารเช้า เราก็ทานกันง่ายๆ
มีอะไรขายๆง่ายๆตรงนั้นก็จัดเลยไม่ซีเรียส
เพราะวันนี้เดี๋ยวเราจะต้องไป…เดินเที่ยว
เราออกจากฐานที่มั่นประมาณ8โมง
.
เดินผ่านร้านเช่าจักรยาน…
เราหันไปปรึกษาพี่เราว่าเอาไงดีวะพี่
เช่าปะ แต่แบบแพงจังอ่ะคันนึง
เราก็เสนอความคิดอีกแล้ว
“พี่เราว่าเดินเล่มชมนกชมไม้ก็ได้แหละชิลๆไม่น่ามีไรมากหรอก”
เออ.. เอาก็เอา
ความจริงคือพี่… มึงไม่ควรเชื่อไอ้เด็กคนนี้อีกแล้ว
ตั้งแต่มันบอกไม่เอาลูกหาบแล้วแหละ
แต่พี่ก็ยังเชื่อมั่นในตัวชั้น..
ก็แปลกนะ….. ยอดภูเขา แต่พื้นมีแต่ทราย
ชีวิตการเดินลำบากขึ้นอีก300%
เราออกเดินประมาณ8โมงเกือบ9โมง
เดินเล่นๆ เดินเรื่อยๆ เหมือนเลาะๆริมภูเขาไป
ระหว่างนั้นก็จะมีคนปั่นจักรยานเป็นกลุ่มๆ ผ่านเราไปแบบ
ฟิ้วววว… แลดูพวกเขาสนุกกันมากเลยนะ
มองตาปริบๆหรือดิชั้นจะเลือกทางผิดอีกแล้วนะ
.
.
เดินไปเรื่อยๆก็มีร้านข้าว ยายขายอาหารตามสั่ง
นั่งสั่งแล้วก็เม้ากันยายนานมากจ้าาา นานจนแบบ
ลืมหรอต้องไปไหน… จริงๆก็ไม่ลืมแต่แบบอากาศกำลังดีไง
ไม่รีบ ไม่มีไรต้องรีบเลยนี่ ซึ่งตอนนั้นก็น่าจะเที่ยงกว่าแล้วล่ะ
ไม่มีใครแวะแบบเราสักคนเลยนะเนี่ย แปลกจัง
.
.
หลังจากโบกมือบ้ายบายคุณยาย
เราออกเดินทางต่อ… ณ จุดหมายคือผา..
ที่จะไปถ่ายรูปตอนเย็นๆ เดินไปบ่นไปแหละ
เหมือนเดิม ขาเริ่มระบมจากเมื่อวานละไง
ระหว่างทางก็มีคนที่ขับแซงเราไป
และขับสวนกลับ… ใช่ค่ะเขากลับกันแล้ว
เราจึงเริ่มรู้สึกตัวว่าเราควรรีบได้แล้ว
ไม่ชิลไม่แฉดอะไรอีกต่อไปแล้วค่ะ

เราไปถึงที่หมายนั่นก็เกือบหกโมงเย็น
แบบอีกนิดก็หกโมงแล้วอะ
ด้วยความอ่อนล้าาาามากกกกกกก
ผู้คนก็เข้าไปถ่ายรูปกันหลายคนผลัดเปลี่ยน
เวียนสลับ เราก็สรรหาเนาะ มุมนู้นบ้างมุมนี้บ้าง
จะได้ไม่ต้องแย่งชาวบ้าน จนได้คิวของตัวเอง
มุมนี้เป็นมุมยอดฮิตแหละค่ะ ใครๆก็มา
ดิฉันมีแค่มือถือใกล้พังเครื่องเดียวในการถ่ายรูปครั้งนี้
ขอบคุณสตีฟจ็อบส์มากค่ะที่ขายแพงขนาดนี้
ทำให้ดิฉันต้องใช้มันให้คุ้มที่สุด..
.
.
พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าไป
ฟ้ากำลังจะมืด..และฉันผู้ไม่มีไฟฉาย
พร้อมกับขาพังๆที่ลืมคิดว่าไป
ซวยแล้วมึงง!!!!! ขามาเดินมาทั้งวัน
แล้วขากลับละจะเดินกี่ชั่วโมง!!
.
.
***ขอขยายความตรงขาพังนิดนึง
พังขนาดไหน? พังขนาดที่ว่าฉันวิ่งไม่ได้แล้ว
ก้าวขาเริ่มยาก เริ่มตึง เอ็นเริ่มขึงแน่น
การพาตัวเองกลับเรียกว่าลากจะดีกว่า****
กลุ่มจักรยานที่กลับหลังเราก็มีค่ะ เค้ามีไฟฉายที่หัวด้วย
ละแน่นอนนนนนนน เค้ามีจักรยานไงค้า
เรามีอะไรค้าาาา เรามีฮอนด้าวอร์คค่าา
แล้วเค้าก็ฟิ้วววว… ผ่านเราให้ลมตีหน้าเรา
เหมือนขามา..
เราเดินกอดคอกันกับพี่สาวสองคนค่ะ
ช่วยกันแบกกันและกัน และพยายามจะไม่แวะที่ไหนอีก
แม้แต่พักเหนื่อย
.
.
เราเดินมาไกลมาก พยายามกันมาก
ช่วยกันเล่านั่นเล่านี่ เพื่อความสนุก
และก็ตัดมาที่เวลา..สามทุ่ม
ฉันเห็นแสงไฟวิบวับ… ไม่ใช่เพราะเวียนหัวนะคุณ
อ๊ะๆๆๆ อย่าดูถูก เพราะใกล้ถึงแล้วจ้าาา
ทางข้างหน้าก็เป็นทางที่เลี้ยวเข้าที่พักแล้วล่ะ
.
ฉันอยากให้คุณนึกภาพตามฉันให้ดี
.
ฉันกอดคอกับพี่สองคนแบบพยุงกัน
เหมือนทหารไปรบแล้วโดนระเบิดแล้วเพื่อนพยุงกลับ
นั่นแหละแบบนั้นเลย และฉันน่าจะเป็นคนโดนระเบิด
ไม่ใช่พี่ชั้น.. ระเบิดที่ขาด้วยนะ ขาขาดเลย
พอถึงทางเลี้ยวเข้าปุ๊บ
ฉันล้มตัวลงกองกับพื้นเลยจ้า “กูมาถึงแล้วโว้ยยยยยยยยย”
แล้วทันใดนั้นก็มีพี่เจ้าหน้าที่
วิ่งมาตรงพวกเราอ่ะ.. แล้วพูดว่า
“พวกเรากำลังจะออกไปตามหาเลยครับ นึกว่าหายไปแล้ว”
หาเท่าไหร่ ถามใครก็ไม่มีใครรู้
ฉันก็ไม่แน่ใจว่า เขานับจำนวนคนแบบแอบๆ
หรือเปล่านะ 555 เพราะตอนออกมาก็ไม่เห็นจะมีใครสนใจเลย
ฉันว่าใช่แน่ๆ.. แต่คืนที่ฉันไปพักก็มีคนไม่เยอะ เต๊นท์สิบกว่าหลังเองมั้ง
“พี่คะพวกหนูกลับมาแล้วค่ะ พี่ไม่ต้องไปตามแล้ว”
.
.
ดีนะคะ ดีที่ยังไม่ตาย… ขากลับ(ตอนต่อไป)พีคกว่านี้อีกอ่ะ
ฉันนั่งกรี๊ดกลางป่า..

0